ประวัติ บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทยขวัญใจมหาชน

March 28, 2024

ประวัติ บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทยขวัญใจมหาชน ที่ผงาดคว้าแชมป์มาแล้วทั้ง K-1, THAI FIGHT และ คุนหลุนไฟต์

บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทยชื่อดัง

ร้อยตรี สมบัติ บัญชาเมฆ คือชื่อจริงของยอดมวยไทย บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทย เชื้อสายกูย เกิดวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 ณ ปีพ.ศ. 2564 ซึ่งทำให้เวลานี้เจ้าตัวอายุ 39 ปี

บัวขาว เริ่มต้นชีวิตนักมวยตั้งแต่อายุ 8 ปี ที่จังหวัดสุรินทร์ พออายุได้ 15 ปีก็ได้เข้ามาสังกัดค่าย ป.ประมุข โดยใช่ชื่อในการชกว่า ดำทมิฬ เกียรติอนันต์ เขาได้เข้ามาชกมวยไทยในกรุงเทพและได้คว้าเข็มขัดแชมป์มาครองหลายเส้น รวมถึงแชมป์เวทีสยามอ้อมน้อย รุ่นเฟเธอร์เวท, แชมป์ประเทศไทย รุ่นเฟเธอร์เวท และแชมป์ที่ เวทีสยามอ้อมน้อย รุ่นไลท์เวท

ในปีพ.ศ. 2545 บัวขาวได้ชนะเลิศมวยไทยมาราธอนโตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี ชนะโคบายาชิ นักมวยชื่อดังจากญี่ปุ่น

จนในปีพ.ศ. 2547 บัวขาว ได้ไปชกที่ประเทศญี่ปุ่นในรายการ K-1 World MAX 2004 ที่จัดขึ้นที่กรุงโตเกียว โดยการชกในรายการ K1 เป็นการชกแบบทัวร์นาเมนต์แพ้คัดออก

บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทยขวัญใจชาวไทย

โดยในรอบแรกบัวขาว พบกับ จอห์น เวย์น พาร์ (John Wayne Parr) นักมวยไทยชาวออสเตรเลีย ในรอบที่สองพบกับ โคะฮิรุมาคิ ทากะยูกิ และในรอบชิงชนะเลิศพบกับ มาซาโตะ แชมป์เก่าชาวญี่ปุ่น และบัวขาวก็สามารถชนะมาได้แบบไม่ยากเย็น และเอาเข็มขัดแชมป์ K1 มาครองได้สำเร็จ

จากชัยชนะครั้งนั้น ทำชื่อของเขาเป็นที่รู้จักในประเทศญี่ปุน และประเทศไทยทันที แต่ได้ปีต่อมา บัวขาว ก็ต้องเสียแชมป์ K1 ให้กับ แอนดี้ ซาวเวอร์ (Andy Souwer) นักคิกบ็อกเซอร์ชาวเนเธอร์แลนด์ ด้วยการแพ้คะแนนอย่างเป็นที่น่ากังขา

ในปีพ.ศ. 2549 บัวขาวได้เข้าชิงในรายการ K-1 World MAX เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยในครั้งนี้ ยอดมมวยชาวไทย สามารถคว้าแชมป์ K1 กลับมาครอง ทำให้เขาเป็นนักชกคนแรก ที่สามารถชนะเลิศในรายการนี้ได้สองสมัย หลังจากนั้นบัวขาวก็เข้าแข่งขันในรายการ K1 อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีพ.ศ. 2550-2552 แต่ก็ไม่สามารถชนะเลิศได้ และมีบางครั้งที่ บัวขาว ต้องแพ้คะแนนอย่างน่ากังขา ค้านกับสายตาของผู้ชม

บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทยขวัญใจชาวไทย

จนมาถึงปีพ.ศ. 2554 บัวขาวได้ขึ้นชกในรายการ THAI FIGHT ทัวร์นาเมนท์มวยไทย โดยในนัดชิง สามารถเอาชนะ แฟรงก์ จอร์จี้ (Frank Giorgi) นักมวยไทยชาวออสเตรเลีย คว้าเข็มขัดแชมป์ THAI FIGHT มาครองได้สำเร็จ

แต่ในปีต่อมา บัวขาว ก็มีข่าวว่าหายตัวไปจากค่าย ป.ประมุข โดยแผนการชกของบัวขาวทั้งในประเทศฝรั่งเศส, อังกฤษ และญี่ปุ่นได้ถูกยกเลิกจนหมด แต่หลังจากนั้น บัวขาว ก็ได้ปรากฏตัว และให้เหตุผลที่หนีออกจากค่ายมาจากความไม่พอใจในเรื่องส่วนแบ่งค่าตัวของตัวเอง และนักมวยรุ่นน้องในค่าย

โดยถ้า บัวขาว ยังขึ้นชกมวยไทยก็จะเป็นการผิดสัญญากับทางค่าย แต่ถึงอย่างนั้น บัวขาว ก็ยังขึ้นชกในรายการ THAI FIGHT ในฐานะแชมป์เก่า เอาชนะน็อก รัสเต็ม ซารีปอฟ นักมวยชาวรัสเซียไปได้ในยกที่ 2 หลังการชก บัวขาว ได้พูดทั้งน้ำตาว่า ตนขึ้นชกโดยไม่กลัวว่าจะผิดกฎหมาย แม้จะต้องติดคุกก็ตาม

ต่อมา บัวขาว ได้ร่วมกับ ดี พุฒหอม (ครูมวยคนแรก) และ ทอง บุรากร (เทรนเนอร์คนแรก) เปิดค่ายฝึกสอนมวยไทย ที่จังหวัดสุรินทร์ บ้านเกิดของเขา โดยใช้ชื่อค่ายว่า บัญชาเมฆ และก็เปลี่ยนมาชกในชื่อ บัวขาว บัญชาเมฆ และได้เซ็นสัญญาค่ายมวย ป.ประมุขอีกครั้ง เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยนักมวยชื่อดังในค่ายคือ ซุปเปอร์บอน บัญชาเมฆ และ นารูโตะ บัญชาเมฆ

บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทยชื่อดัง

นอกจากนั้นเราก็จะได้เห็น บัวขาว ชกในรายการพิเศษอีกหลายรายการ โดยเฉพาะในรายการ คุนหลุนไฟต์ (Kunlun Fight) และแมทการชกที่เป็นกระแส ก็คือการชกกับ อี้หลง (Yi Long) นักศิลปะการต่อสู้วูซูของจีน โดนทั้งสองเจอกันครั้งแรกในปีพ.ศ. 2558 ซึ่ง บัวขาว สามารถเอาชนะคะแนนมาได้

แต่ในการเจอกันครั้งที่สองในปีพ.ศ. 2559 บัวขาว ก็เป็นฝ่ายแพ้คะแนน อี้หลง แบบค้านสายตาผู้ชม และได้มีการประกาศว่าจะมีการชกกันในครั้งที่สามในศึก MAS Fight ด้วยกติกาคือ ชกเพียงแค่ยกเดียว 9 นาที สามารถใช้อาวุธได้ทุกรูปแบบ (หมัด, เท้า, เข่า, ศอก และปล้ำตีเข่า) และไม่มีการชนะคะแนน ผลตัดสินอยู่ที่การน็อค หรือขอยอมแพ้ ถ้าครบ 9 นาทีจะถือว่าเสมอ แต่การชกครั้งนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้น เนื่องจาก อี้หลง ออกมาประกาศยกเลิกด้วยข้ออ้างว่ามีอาการบาดเจ็บที่หลัง

บัวขาว บัญชาเมฆ ได้เข้ารายงานตัวที่ โรงเรียนนายสิบทหารบก ค่ายธนะรัชต์ ศูนย์การทหารราบ ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เพื่อเข้ารับราชการทหาร โดยได้รับตำแหน่งแรกเป็นรองผู้บังคับหมู่ หมวดบริการ กองร้อยบริการ กองบริการ โรงเรียนการกำลังสำรอง ศูนย์การกำลังสำรอง

บัวขาว บัญชาเมฆ นักชกขวัญใจชาวไทย

เกียรติประวัติ

  • แชมป์ประเทศไทย รุ่นเฟเธอร์เวท (ที่สนามมวยลุมพินี) ปี 2544
  • แชมป์ K-1 World MAX champion ปี 2004 และ 2006
  • แชมป์ 2010 Shoot Boxing S-Cup World champion ปี 2553 คนไทยคนแรก และคนเดียวในประเทศไทย
  • แชมป์ สภามวยไทยโลก ในพระบรมราชูปถัมภ์ WMC World champion ปี 2549, 2552, 2554, 2557
  • แชมป์ สภามวยโลก WBC Muaythai Diamond World Championship ปี 2557
  • แชมป์ ไหว้ครูมวยไทยสวยงาม สนามมวยลุมพินี ปี 2545
  • ถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แชมป์มวยไทยไฟท์ ปี 2554, 2555
  • ถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รางวัลนักกีฬาอาชีพดีเด่น ปี 2555
  • ถ้วยพระราชทาน กษัตริย์อัลแบร์ตที่ 2 แห่งโมนาโค แชมป์ “มอนติคาโล ไฟต์ติง มาสเตอร์” ปี 2557
Tags: , , , , , ,

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *